การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
การออกกำลังกายช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่หลายคนอาจกังวลว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี
การประเมินตนเองก่อนออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
- มีความดันโลหิตสูง กำลังได้รับยาลดความดัน หรือความดันโลหิตต่ำจนทำให้หน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่าทาง
 - โรคหัวใจ เช่น หัวใจขาดเลือด หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นเร็วหรือช้าผิดปกติ กำลังได้รับยาโรคหัวใจ และโรคหัวใจที่แพทย์เคยแนะนำว่า ควรออกกำลังกายภายใต้คำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น
 - มีอาการเจ็บอกในขณะที่อยู่เฉยๆ หรือในขณะออกกำลังกาย
 - เวียนศีรษะ สูญเสียการทางตัว หรือเคยมีประวัติหมดสติ
 - มีภาวะติดเชื้อ เช่น มีไข้ หนาวสั่นหรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นต้น
 - ก้อนมะเร็งกดเบียดหลอดเลือด ไขสันหลัง ลำไส้ หรือกระเพาะปัสสาวะ
 - มีน้ำในช่องอก ช่องท้อง ช่องหัวใจ ที่ทำให้เหนื่อยง่ายหรือเคลื่อนไหวลำบาก
 - มีระดับของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด ต่ำกว่าปกติ
 - มีปัญหาด้านกระดูกและข้อ ที่มีอาการแย่ลงเมื่อออกกำลังกาย หรือเป็นโรคมะเร็งลามไปที่กระดูก
 - มีระดับเกลือแร่ในเลือดผิดปกติ
 - เหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้สงสัยว่าไม่ควรจะออกกำลังกาย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย
หลักการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
- เริ่มต้นอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป แต่ขอให้ทำอย่างสม่ำเสมอ
 - การออกกำลังกายอย่างหักโหมทันที จะทำให้ร่างกายเครียดและอ่อนล้าโดยไม่จำเป็น
 - หลังการรักษามะเร็ง ร่างกายต้องใช้เวลาพักฟื้น สักช่วงหนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาออกกำลังกายจนแข็งแรงเท่าเดิมได้
 - ออกกำลังกาย เท่าที่รู้สึกว่าตัวเอง ไหว 
 - ให้พยายาม ออกกำลังกายอะไรก็ได้แม้เล็กน้อย ยังส่งผลดีต่อสุขภาพ ดีกว่าไม่ออกกำลังกายเลย
 - ระหว่างวัน พยายาม หลีกเลี่ยงการนั่งหรือนอนเฉยๆ เป็นเวลานาน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ แม้ว่าผู้ป่วยจะออกกกำลังกายทุกวันก็ตาม
ประโยชน์ของการออกกำลังกายในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
- ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต ผู้ป่วยมะเร็ง เช่น ลดความกังวล ความเครียด และโรคซึมเศร้าได้ 
 - ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ให้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นได้
 - ช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็ง เช่น อาการอ่อนเพลีย อาการปวด และอาการกล้ามเนื้อฝ่อลีบได้
 - อาจช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิต ในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมได้
 - อาจช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตและลดการกลับมาเป็นซ้ำของโรคมะเร็ง ในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ได้
เคล็ดลับสำหรับคนที่ไม่อยากออกกำลังกาย
- เลือกชนิดการออกกำลังกายที่ชอบ จะทำให้สามารถออกกำลังกายได้สม่ำเสมอ แต่ควรสับเปลี่ยนชนิดออกกำลังกายบ้าง เพื่อไม่ให้ซ้ำซากจำเจ
 - ฟังเพลงที่ชอบระหว่างการออกกำลังกาย ทำให้มีความสุขกับการออกกำลังกายมากขึ้น
 - มีเพื่อนร่วมออกกำลังกาย จะทำให้ออกกำลังกายได้สม่ำเสมอมากขึ้น
 - เลือกออกกำลังกายในช่วงที่รู้สึกสดชื่นมากที่สุดของวัน โดยเริ่มออกกำลังกายเบาๆ ช่วงสั้นๆ ก่อนในช่วงแรก
 - จดบันทึกการออกกำลังกายในแต่ละวัน จะทำให้มีแรงจูงใจมากขึ้นในการออกกำลังกาย
 - ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมงต่อวัน และควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม
เทคนิค 5 ขั้นตอน สู่การเริ่มต้นการออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน
1. มีเหตุผลที่ชัดเจน ว่าทำไมถึงอยากออกกำลังกาย และทบทวนบ่อยๆ
 2. ตั้งเป้าหมายแรก ให้เป็นเป้าหมายที่ทำได้ง่าย ทำได้จริง เพื่อกำลังใจในการพัฒนาสู่เป้าหมายต่อไป
 3. มองหากิจกรรมที่ช่วยเพิ่มการออกกำลังกายในวิถีของชีวิตประจำวัน เพื่อจะได้ทำได้ทุกวัน
 4. พยายามอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่รักการออกกำลังกาย อยู่ในบรรยากาศของความกระปรี้กระเปร่า
 5. ค่อยๆ เพิ่มการออกกกำลังกายทีละเล็กน้อย ตามกำลังของตนเอง จะทำให้ออกกำลังกายได้สม่ำเสมอมากกว่า
การออกกำลังกายไม่ใช่แค่ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยให้จิตใจแจ่มใส พร้อมสู้กับโรค เพียงแค่เริ่มต้นก็เป็นก้าวที่สำคัญแล้ว



