เจาะเส้นทาง 'เค.พี.เอ็น.ซีเนียร์ฯ' โซลูชันสูงวัย สู่เป้าหมาย 'มหาชน'


นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ

ตลอด 7 ปี บริษัท เค.พี.เอ็น.ซีเนียร์ ฮอสปิตัล จำกัด มีการเติบโตและสร้างความ "เชื่อมั่น (Trust)" ให้กับผู้รับบริการมาอย่างต่อเนื่อง มีการทรานส์ฟอร์มองค์กรโดยเปลี่ยนจากแค่ Service มาเป็น Solution ของคนไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย "มหาชน" ที่นอกจากจะหมายถึงการนำบริษัทฯ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว ยังต้องการเป็นโซลูชันเรื่องสุขภาพให้คนทุกวัยทั่วโลก

นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลผู้สูงอายุและศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู Chersery Home International และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เค.พี.เอ็น.ซีเนียร์ ฮอสปิตัล จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์โควิด บวกกับตลาดเรื่องของซีเนียร์ แคร์ เติบโตมากทั้งในประเทศ ภูมิภาค และระดับนานาชาติ ในช่วง 2-3 ปี บริษัทฯ จึงมีการทรานส์ฟอร์มองค์กรขยายจากการรักษาฟื้นฟู มาสู่การส่งเสริมป้องกันที่เป็นเทรนด์ใหม่ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ เพื่อรองรับการเป็นซีเนียร์ เดสติเนชัน (Senior Destination) ของคนทั่วโลก

รักษาจุดแข็งเดิม

นพ.เก่งพงศ์ กล่าวต่อว่า เค.พี.เอ็น.ซีเนียร์ฯ มีการจัดวางการให้บริการเพื่อตอบโจทย์ 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 กลุ่มบริการเดิมที่เป็นจุดแข็ง ได้แก่ โรงพยาบาลผู้สูงอายุและศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู Chersery Home ที่เป็นจุดแข็งเรื่องของการดูแลผู้ป่วยติดเตียงให้ฟื้นฟูได้เร็ว รวมถึงผู้มีปัญหาหลังผ่าตัดซับซ้อน เช่น สมอง หัวใจ และแผลกดทับซับซ้อน เป็นต้น โดยมีแผนขยายเพิ่มเติมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 พื้นที่ อาทิ บางนา มีนบุรี เกษตรนวมินทร์ แจ้งวัฒนะ นนทบุรี และสมุทรปราการให้ครอบคลุมทุกทิศ

นอกจากนั้นยังมีศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงอายุ เดอะซีนิเซ่นส์ ที่มีขนาดใหญ่ แต่ละอาคารจะมีความเฉพาะทาง โดยตึก 1 ดูแลสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ปัญหาเรื่องความจำ ได้รับการรับรองระดับนานาชาติเป็นการรับประกันกระบวนการให้บริการ ตึก 2 ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูหลอดเลือดสมอง (STROKE REHAB CENTER) อัมพฤกษ์ อัมพาต มีคลินิกขนาดใหญ่ ธาราบำบัด และมีแนวคิดจะเปิดศูนย์เฉพาะทางพิเศษมาตรฐานสากลเพิ่มเติม เช่น กลุ่มผู้ป่วยดูแลประคับประคองระยะท้าย (PALLIATIVE CARE) เป็นการรองรับผู้ป่วยจากการรักษาในโรงพยาบาลใหญ่มาพักฟื้นดูแลต่อเนื่อง รวมถึงการขยับไปดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีปัญหาติดยาเสพติด/ปัญหาด้านจิตอารมณ์ครบวงจร (Mood & Mind Rehabilitation)

ขยายแฟรนไชส์ BAAN THAMACHART

นพ.เก่งพงศ์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับส่วนที่ 2 คือ แฟรนไชส์ BAAN THAMACHART By Chersery Home ซึ่งถือเป็น Nursing Home คุณภาพมาตรฐานสากล ขณะนี้มีอยู่ 2 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เบื้องต้นปักหมุดไว้ที่ 30 แห่งใน 3-5 ปี อนาคตจะเปิดในต่างจังหวัดอย่างพัทยา จ.ชลบุรี จ.เชียงใหม่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจ.ภูเก็ต เป้าหมายใน 3 ปีเป็น 600 เตียงทั่วประเทศ บริษัทฯ ได้มีความร่วมมือกับเมืองไทยประกันชีวิตและเจนเนอราลี่ เพื่อเบิกจ่ายจากประกัน

บุกตลาด Home Care

ส่วนที่ 3 คือ "Home Care" ที่เริ่มดำเนินการมาประมาณ 1 ปี คือ "การส่งผู้ดูแลไปดูแลที่บ้าน" เพราะรู้ว่าการดูแลที่บ้านถูกและดีที่สุด โดยปี 2565 เริ่มบุกตลาดด้วยการเปิด "HARMONI Homecare" เป็นการจัดหาผู้ดูแล 4 แบบ ได้แก่ 1. ส่ง Care Giver ในการดูแล ซึ่งบริษัทฯ มีความร่วมมือกับรร.บริบาลทำให้เกิดความมั่นใจ 2. ส่งผู้ช่วยพยาบาลดูแลในกรณีที่ซับซ้อนขึ้น กรณีผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ต้องได้รับอาหารทางสายยาง 3. ส่งพยาบาล ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยที่ดูแลได้ยาก และ 4. นักกายภาพบำบัด

"ระบบจะมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม มีการฝึกอบรมเรื่องการดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุเพิ่มเติม และมีทีมบุคลากร รพ.ผู้สูงอายุ เฌ้อสเซอรี่ โฮม เป็นแบ็กอัปให้คำปรึกษาผ่าน Telemedicine หากคนไข้มีปัญหา เช่น เกิดภาวะแทรกซ้อนไข้ขึ้น ปัสสาวะขุ่น หรือกินอาหารไม่ได้เป็น Healthcare@Home ที่ปรึกษาสุขภาพให้กับลูกค้าที่บ้าน โดยตั้งเป้า 1,000 ครอบครัวในระยะเวลา 3 ปี"

นพ.เก่งพงศ์ กล่าวว่า ธุรกิจนี้ยังไม่มีใครเป็นผู้นำตลาด ทั้งที่การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือโฮมแคร์เป็นความต้องการมากที่สุดของประเทศกว่า 90% เนื่องจากวัฒนธรรมไทยไม่อยากส่งผู้สูงอายุไปอยู่เนอร์สซิ่ง โฮม และตอบโจทย์ สังคมผู้สูงอายุ ที่ทุกคนต้องการลดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้จะเปิดบริการ "HARMONI Mobility" โดยร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผลิตรถที่ออกแบบพิเศษเป็นวีลแชร์ได้เมื่อคนไข้ต้องการเดินทางออกไปข้างนอก ซึ่งมีฐานลูกค้าในกรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 50,000 ครอบครัว ที่มีความต้องการในส่วนของ Homecare Service ที่มีความเป็นมืออาชีพ ครบวงจร ราคาประหยัดมากขึ้น 

"อนาคตจะมีธุรกิจ Market Place ไปที่บ้าน บริการสินค้าที่ต้องการ เช่น ผ้าอ้อมผู้สูงอายุ นมทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ส่งมอบของที่ดีในราคาประหยัด คาดว่าจะเกิดในอีก 2 ปี อีกทั้งยังมีธุรกิจการเช่าเครื่องมือแพทย์คุณภาพราคาประหยัด เพื่อเป็นทางเลือก Solution ครบวงจรให้คนไทย และมีแผนลงทุนเกี่ยวกับดิจิทัล แพลตฟอร์ม ซึ่งจะใช้เป็นส่วนติดตามสุขภาพ เช่น การนอน ความเครียด หรือปัญหาสุขภาพแฝงเพื่อดูแลลูกค้าอย่างครบถ้วน ประหนึ่งทีมเลขาฯ สุขภาพที่รู้ใจและไว้ใจ"

ผุดโปรดักต์อาหารสุขภาพ

นพ.เก่งพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปี 2566-2568 เค.พี.เอ็น.ซีเนียร์ฯ ยังบุกตลาด อาหารสุขภาพ เริ่มที่ตัวแรก "ผงชงดื่มรากแก่นตะวัน" ภายใต้แบรนด์ Inulio ที่เป็นการนำงานวิจัยคณะแพทยศาสตร์ และคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถสกัดไฟเบอร์คุณภาพสูงที่เรียกว่า "อินนูลิน" ออกมาได้ ช่วยให้แบคทีเรียในลำไส้เจริญเติบโตได้ดี ซึ่งได้รับรางวัลระดับนานาชาติ โดยที่ผ่านมามูลค่าตลาดน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และในช่วง 2 ปี มีผลกำไรในสัดส่วนที่สูง ช่วยเสริมความครบวงจรให้แก่ธุรกิจ และยังช่วยด้านเศรษฐกิจ เกษตรกร และนวัตกรรมของประเทศด้วย

"ระยะต่อไปจะต่อยอดสารสกัดอินนูลินไปในรูปแบบต่างๆ และเน้นอาหารที่เป็นพรีไบโอติกและโพรไบโอติกที่เป็นอาหารแห่งอนาคต ด้วยนำงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยสู่มหาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้บริษัทฯ ไม่ได้แค่ดูแล Service แบบตั้งรับ แต่กลายเป็นส่วนช่วยแก้ปัญหาหรือโซลูชัน (Solution) ให้กับคนทุกคน เป็น Ecosystem ที่ดี" 

Powered by MakeWebEasy.com
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy